ถกดราม่าร้อน วัดเจดีย์ยื่นจดลิขสิทธิ์ “ไอ้ไข่” ผู้เชี่ยวชาญเผย วัดอื่นๆ สามารถทำซ้ำเพื่อให้คนมากราบไหว้บูชาได้หรือไม่
จากกรณี พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรือ อาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ทางวัดได้มีการจดลิขสิทธิ์ไอ้ไข่ไว้แล้วนั้น
ในรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ ได้พูดคุยกับ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทองพระอารามหลวง กล่าวว่า ปกติวัดจะไม่จดลิขสิทธิ์ในลักษณะนี้ หากมีการจดลิขสิทธิ์ส่วนมากจะเป็นโบราณวัตถุ และจากการคุยกับนักกฎหมาย ปกติแล้วสิ่งที่สร้างขึ้นในวัดจะสร้างจากความศรัทธาของคนจำนวนมาก และส่วนตัวคิดว่า ไม่มีพระรูปใดต้องรู้สึกหวงแหนในสิ่งที่สร้างขึ้นมา โดยห้ามไม่ให้วัดอื่นบูชา หรือไม่ให้วัดอื่นนำไปหาปัจจัยเข้าพระพุทธศาสนา
ด้านนายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายลิขสิทธิ์ กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวไม่ใช่การจดทะเบียน แต่เป็นการจดแจ้งเป็นหลักฐานกับทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา หากใครไปยื่นก่อนก็จะได้รับการจดแจ้งก่อนว่าเป็นผู้สร้างงานขึ้นมา หากภายหลังมีหลักฐานพิสูจน์ว่า ไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ตัวจริงก็สามารถถูกเพิกถอนได้ เช่นเดียวกับกรณีของ จตุคามรามเทพ ซึ่งภายหลังศาลได้ยกฟ้อง
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ตามที่พระมหาไพรวัลย์พูดคือ วัตถุมงคล ผ้ายันต์ต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในวัดเป็นความศรัทธา ประกอบกับในสมัยก่อนวัดต้องการหารายได้เข้าวัด ผู้มีจิตศรัทธาจึงร่วมกันสร้างขึ้นมาถวายวัด ดังนั้นจึงไม่ใช่ผลงานของคนคนเดียว
ในกรณีของ “ไอ้ไข่” ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า คนที่สร้างสรรค์งานคนแรกคือใคร หากเกิดคดีฟ้องร้อง กฎหมายจะมองว่าใบจดแจ้งเป็นเอกสารราชการเพราะกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ทางวัดเจดีย์อาจใช้ใบที่ไปจดแจ้งมาห้ามวัดอื่นได้
แต่หากเกิดการต่อสู้ในชั้นศาล ฝ่ายจำเลยที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ก็มีสิทธิ์ยกข้อต่อสู้ได้ว่า การที่มีการอ้างว่าสร้างสรรค์โดยวัด ที่จริงแล้วไม่ได้มีการสร้างขึ้นจริง ซึ่งหากโต้แย้งได้และสำเร็จ ใบจดแจ้งนั้นก็จะถูกเพิกถอน ดังนั้นจึงแนะนำให้ดูเรื่องของลิขสิทธิ์ คำว่า “ไอ้ไข่ วัดเจดีย์” จดเป็นเครื่องหมายการค้า.
ข่าว-ไทยรัฐ